รัฐบาลไทยเห็นชอบมาตรการและแนวทางการตรวจลงตรา (Visa) ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ เพื่อให้ทุกการเดินทางมาประเทศไทยสามารถทำได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะแบ่งการดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ออกเป็น 3 ระยะ เราได้สรุปโดยย่อไว้ดังนี้
- กำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา เพิ่มเป็น 93 ประเทศ จากเดิม 57 ประเทศ สามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วัน เพื่อการท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ และการทำงานระยะสั้น เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567
- การให้สิทธิ Visa on Arrival (VOA) เป็นมาตรการฝ่ายเดียวของไทย เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567
- เพิ่มการตรวจลงตราประเภทใหม่ Destination Thailand Visa (DTV) สำหรับชาวต่างชาติที่มีทักษะและทำงานทางไกลผ่านระบบดิจิทัล (remote worker หรือ digital nomad) ที่ต้องการพำนักในประเทศไทยเพื่อทำงานและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน โดยเริ่มใช้ในเดือนมิถุนายน 2567
- ปรับปรุงสิทธิสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป ที่ได้รับการตรวจลงตรา Non-Immigrant Visa รหัส ED เป็นการอำนวยความสะดวกให้นักศึกษาต่างชาติที่กำลังศึกษา/กำลังจะสำเร็จการศึกษาในไทย เพื่อดึงดูดผู้ที่มีศักยภาพและทักษะเข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศ โดยเริ่มใช้ในเดือนมิถุนายน 2567
- ปรับหลักเกณฑ์การรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวพำนักระยะยาว (Long Stay) สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายในประเทศไทย จะเริ่มดำเนินการภายในเดือนกันยายน ปี 2567
- เปิดให้บริการการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) ให้ครอบคลุมสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่และสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยทุกแห่งทั่วโลก ภายในเดือนธันวาคม ปี 2567 และพัฒนาระบบ Electronic Travel Authorization (ETA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองคนต่างชาติ โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะเริ่มใช้เต็มรูปแบบเดือนมิถุนายน 2568
ที่มา : ทำเนียบรัฐบาล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4bNevA6
รูปโดย: Freepik
Was this article helpful?
YesNo
