พิธีการนำเข้าทางบก

การนำของเข้าทางบก เป็นวิธีการที่เลือกใช้ในการขนส่งโดยรถยนต์เข้ามาทางด่านพรมแดนทางบก เหมาะสำหรับการนำสินค้าเข้ามาจากประเทศที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากไทยมากนัก

คุณจะต้องตรวจสอบใบอนุญาตสินค้าก่อน จึงจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนนี้ได้

ขั้นตอนการนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์ในระบบ e – Import

1

ลงทะเบียนเป็นผู้
นำเข้า-ส่งออกกับ
กรมศุลกากร

2

ขั้นตอนการปฏิบัติการนำเข้าสินค้าทางบก

3

ชำระค่าภาษีอากร

4

การตรวจปล่อยของออกไปจากอารักขาศุลกากร

ลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกกับกรมศุลกากร

ผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินการในกระบวนการทางศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องลงทะเบียนเป็นผู้ปฏิบัติ พิธีการศุลกากร เพื่อบันทึกข้อมูลไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร

ข้อควรรู้

ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหากของมีราคารวมค่าขนส่งและค่าประกันภัย ไม่เกิน 1,500 บาท และไม่เป็นของต้องห้าม หรือต้องกำกัดตามกฎหมาย

ขั้นตอนการปฏิบัติการนำเข้าสินค้าทางบก

1

การรายงานยานพาหนะเข้า และการยื่นบัญชีสินค้าทางบก (Car Manifest)

ส่งข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ระบบฯ ทำการออกเลขที่รับรายงานยานพาหนะ (Received Control Number) เพื่อนำมาแสดงต่อพนักงานศุลกากร ณ ด่านพรมแดนทางบก เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจสอบข้อมูลเพื่ออนุญาตให้ไปยังด่านศุลกากรเพื่อปฏิบัติพิธีการยื่นใบขนสินค้าขาเข้า

กรณีไม่สามารถส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ได้

ให้กรอกรายละเอียดในรายงานยานพาหนะเข้าและบัญชีสินค้าทางบก (Car Manifest) ตามแบบ ศบ.1 ให้ครบถ้วน นำมายื่นต่อพนักงานศุลกากรประจำด่านพรมแดน เพื่อออกเลขที่รับรายงานยานพาหนะ (Received Control Number) ก่อนอนุญาตให้ควบคุมยานพาหนะไปยังด่านศุลกากร

2

เอกสารประกอบการยื่นใบขนสินค้าขาเข้า

เอกสารประกอบการยื่นใบขนสินค้าขาเข้า

• บัญชีราคาสินค้า (Invoice)
• บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (Packing List)
• ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading)
• ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice)
• ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาต กรณีเป็นของต้องกำกัดหรือสินค้าที่ต้องควบคุมการนำเข้า
• หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) (กรณีขอลดอัตราอากร)
• เอกสารอื่น ๆ เช่น เอกสารแสดงส่วนผสม คุณลักษณะและการใช้งานของสินค้า เป็นต้น

3

วิธีการส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า 4 ช่องทาง

1. ด้วยตนเอง
2. มอบหมายให้ตัวแทนออกของ (Customs Broker) เป็นผู้ส่งข้อมูลแทน
3. ให้เคาน์เตอร์บริการ (Service Counter) เป็นผู้ส่งข้อมูล
4. รูปแบบเอกสาร พร้อมทั้งแบบรายละเอียดข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า (ใบนําคีย์) ณ ด่านศุลกากรที่นำเข้า

ข้อควรรู้

กรณีที่เป็นสินค้าทั่วไป ต้องจัดทำ ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมแบบแสดงรายการภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม (กศก. 99/1 )

ชำระภาษี (ถ้ามี)

ดำเนินการชำระค่าภาษีอากร (ถ้ามี) และค่าธรรมเนียมศุลกากรให้แล้วเสร็จก่อนไปรับการตรวจปล่อยของ 3 ช่องทางดังต่อไปนี้

• ด้วยตนเองที่หน่วยรับชำระเงินทุกแห่งของกรมศุลกากร ทั้งในรูปแบบเงินสด บัตรภาษี บัตรเดบิต บัตรเครดิต และเช็คของผู้ประกอบการที่มีธนาคารค้ำประกันและได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากร
• ชำระในระบบ e-Payment 
• ชำระในระบบ e-Bill Payment คือ การใช้เอกสารของกรมศุลกากร (เช่น ใบขนสินค้า ใบสั่งเก็บ) ซึ่งมี QR Code หรือ Bar Code หรือเลขอ้างอิงตามที่ปรากฏในเอกสารนั้น ไปชำระ ณ เคาน์เตอร์ของธนาคาร หรือ Internet Banking หรือ ATM หรือช่องทางการรับชำระเงินอื่น ๆ ของธนาคาร หรือ ผ่านตัวแทนรับชำระเงินที่ทำความตกลงกับกรมศุลกากร ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-11 และ บิ๊กซี

การตรวจปล่อยของออกไปจากอารักขาศุลกากร

การตรวจปล่อยสินค้าจะจัดกลุ่มใบขนสินค้าเป็น 3 กลุ่ม

ยกเว้นการตรวจ (Green Line)

คำสั่ง “ยกเว้นการตรวจ (Green Line)” ติดต่อเจ้าพนักงานศุลกากรเพื่อนำของออกจากอารักขาได้ทันที

พบพนักงานศุลกากรเนื่องจากได้รับยกเว้นใบอนุญาต (Yellow Line)

คำสั่ง “ให้พบพนักงานศุลกากรเนื่องจากได้รับยกเว้นใบอนุญาต (Yellow Line)” ต้องติดต่อเจ้าพนักงานศุลกากรเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขการได้รับยกเว้นใบอนุญาตก่อนนำของไปจากอารักขา

ให้เปิดตรวจ (Red Line)

คำสั่ง “ให้เปิดตรวจ (Red Line)” ต้องติดต่อเจ้าพนักงานศุลกากรเพื่อทำการตรวจสอบของก่อนนำของไปจากอารักขา

เรียนรู้เพิ่มเติม

รายชื่อตัวแทนออกของ

ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อตัวแทนออกของเพื่อจัดจ้างสำหรับดำเนินการ