รัฐบาลไฟเขียวลดภาษีนำเข้า ปี 2565-2566 กระตุ้นยอดการใช้รถยนต์ EV 

เป็นที่คาดการณ์กันว่า ในโลกของอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาแทนรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรองรับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน ในทุกๆ ปี สัดส่วนการใช้รถยนต์ EV ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นมาก ในขณะที่ประเทศไทยเราก็มีมาตรการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ EV มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ยังเป็นปัญหาอยู่ก็คือราคารถ EV นั้นยังสูงอยู่มาก 

เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้เริ่มมาตรการสนับสนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย ปล่อยแรงจูงใจด้วยการให้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากร ทั้งสิทธิ์ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) และการนำเข้าทั่วไป ด้วยการ “ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า” และ “ให้เงินอุดหนุนในการซื้อรถยนต์ EV  โดยพิจารณาตามขนาดของแบตเตอรี่” ตลอดปี 2565 – 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมตลาดรถยนต์ EV ในประเทศ

ลดภาษีราคารถ EV ประเภทไหนบ้าง?

• ครอบคลุมทั้งรถยนต์ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ 

ซื้อรถยนต์ EV ต้องเตรียมตัวเสียภาษีอย่างไร ลดเท่าไหร่ ?

การปรับลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร แบ่งเป็น 2 กลุ่ม

ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

• สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (CBU) ประกอบสำเร็จรูปนำเข้าทั้งคัน ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) และการนำเข้าทั่วไป
• ใช้สิทธิ FTA อากรไม่เกินร้อยละ 40 ให้ยกเว้นอากร 
• ใช้สิทธิ FTA อากรเกินร้อยละ 40 ให้ลดลงอีกร้อยละ 40
• สำหรับนำเข้าทั่วไป อากรร้อยละ 80 ให้ลดลงเหลือร้อยละ 40
• ปรับลดภาษีสรรพสามิตจากเดิมร้อยละ 8 เหลือร้อยละ 2

ราคาตั้งแต่ 2-7 ล้านบาท

• สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ CBU ประกอบสำเร็จรูปนำเข้าทั้งคัน ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) และการนำเข้าทั่วไป 
• ใช้สิทธิ FTA อากรไม่เกินร้อยละ 20 ให้ยกเว้นอากร
• ใช้สิทธิ FTA อากรเกินร้อยละ 20 ให้ลดลงอีกร้อยละ 20
• สำหรับอัตราอากรนำเข้าทั่วไป ให้ลดลงเหลือร้อยละ 60
• ปรับลดภาษีสรรพสามิตจากเดิมร้อยละ 8 เหลือร้อยละ 2 

รัฐจะให้เงินอุดหนุนในการซื้อรถยนต์ EV  โดยพิจารณาตามขนาดของแบตเตอรี่

• แบตเตอรี่ต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 70,000 บาท/คัน
• แบตเตอรี่มากกว่า 30 กิโลวัตต์/ชั่วโมง จะได้รับเงินอุดหนุน 150,000 บาท/คัน