Home > News & Tips > Service > คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ พื้นที่เก็บรักษาของสำหรับผู้จัดงาน MICE

คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ พื้นที่เก็บรักษาของสำหรับผู้จัดงาน MICE

กันยายน 24, 2022 | 652 views

คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) เป็นพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรเพื่อใช้สำหรับเก็บของหรือพักของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยมีสิทธิประโยชน์ในด้านการยกเว้นภาษีอากร นับเป็นอีกความสะดวกทางด้านพิธีการศุลกากรที่ผู้จัดงานไมซ์ได้เลือกใช้เพื่อบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์สำหรับการจัดงานต่างๆ  ซึ่งในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ (คสท.) จะต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกัน

  1. คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต
  2. เป็นรัฐวิสาหกิจ/ส่วนราชการ/บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่มีทุนจดทะเบียนและฐานะทางการเงินมั่นคง งบการเงินไม่มียอดขาดทุนสะสม และมีคุณสมบัติด้านสถานที่ขอจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน ดังนี้
    • ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หรือในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ
    • ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อื่นๆ ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ
  3. มีกรรมสิทธิ์/สิทธิครอบครอง/สิทธิในการใช้พื้นที่ที่ขอจัดตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย หากที่ดินที่ขอจัดตั้งมีการจดทะเบียนจำนอง จะต้องมีหนังสือยินยอมให้ดำเนินการจัดตั้งได้
  4. ไม่เคยมีประวัติกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากรย้อนหลัง 3 ปี (นับแต่วันที่ยื่นคำขอ) รวมไปถึงการกระทำผิดกฎหมายที่ต้องรับโทษจำคุก
  5. ไม่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตในประเภทที่ได้ยื่นขอ
  6. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขอ ยกเว้นถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้วก่อนวันยื่นคำขอเกิน 3 ปี และหากผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคล ผู้บริหารจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวด้วย
  7. เงื่อนไขที่ผู้ขอใบอนุญาตต้องดำเนินการ
  8. สถานที่ที่ขอจัดตั้งต้องอยู่ในบริเวณเหมาะสม มีอาคารเก็บของมั่นคงแข็งแรง และต้องจัดให้มีสถานที่จัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการแยกจากสถานที่เก็บและตรวจของ
  9. ต้องก่อสร้างตามแบบแปลนที่ได้ยื่นประกอบคำขอซึ่งกรมศุลกากรเห็นชอบ โดยมีรั้วล้อมรอบ มีประตูเข้า – ออกมั่นคงแข็งแรง มีห้องทำงานพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบสื่อสารเชื่อมโยงกับระบบของศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรใช้ในการกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บน และจัดทำป้ายคลังสินค้าทัณฑ์บนตามแบบที่กำหนด
  10. มีระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์บุคคล หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ หรือของที่ผ่านเข้า – ออก และตรวจสอบข้อมูลภาพย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 60 วัน พร้อมจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการ รวมถึงกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บนให้มีความรอบคอบรัดกุมตามที่กรมศุลกากรกำหนด
  11. มีระบบควบคุมสินค้าคงคลังที่ตรวจสอบการนำของเข้าเก็บ การนำของออก และของคงเหลือ โดยจัดทำรายงานทางบัญชีและสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
  12. ระยะเวลาในการเก็บของที่นำเข้าเก็บหรือนำเข้าสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ จะต้องนำของออกภายใน 60 วัน (นับแต่วันสิ้นสุดการจัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการ)
  13. การตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
  14. ให้จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด ยื่นต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี (ให้ถือวันที่พนักงานศุลกากรเข้าตรวจสอบเป็นวันปิดงวดบัญชี)
  15. ให้จัดส่งสำเนางบการเงินตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองแล้วต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี (ให้ถือวันที่พนักงานศุลกากรเข้าทำการตรวจสอบเป็นวันปิดงวดบัญชี)
  16. กำหนดให้ตรวจนับของคงเหลือในคลังสินค้าทัณฑ์บนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  17. การทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน และวางหลักทรัพย์ค้ำประกันของธนาคารตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด จำนวน 1,000,000 บาท
  18. มีค่าธรรมเนียมรายปีการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน จำนวน 30,000 บาท

อ่านข้อมูลฉบับเต็มได้ที่ เว็บไซต์กรมศุลกากร

Was this article helpful?
YesNo